ผลฟุตบอลไทย: Welcome To ยูโร 2016รอบสรรหาพร้อมทั้งวิเคราะห์บอลการประจวบกันของแต่ละกลุ่ม

Welcome To ยูโร 2016

ซึ่งหลังจากผ่านเวิลด์คัพ 2014 ไปได้ 2 ดวงจันทร์เศษ ๆ ก็ได้ยุคสมัยสำหรับการฉลองฟาดแข้งทัวร์นาเมนท์รอง น้อง ๆ เวิลด์คัพ จะได้เวลาระเบิดขึ้น นั่นก็คือศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 15 หรือศึก ยูโร 2016

โดยในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งวัฏสงสารยุโรป ครั้งนี้ ฝรั่งเศส อดีตแชมป์ 2 สมัย รับรับอาสาเป็นเจ้าภาพจัดการรบรอบสุดท้าย ระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน ถึง 10 กรกฎาคม 2016

ซึ่งทางครั้งนี้ เจ้าภาพ ได้เตรียมสนามแข่งแจกแจงไปทั่วแผ่นดินฝรั่งเศส รวมเบ็ดเสร็จแล้ว 10 เมือง อันได้แก่

กรุงปารีส
แซ็งต์ เดนิส
ล็องส์
ลีลล์
แซ็งต์ เอเตียน
ลียง
บอร์กโดซ์
ตูลูส
มาร์กเซย
นีซ

และลองมาวิเคราะห์บอลในการต่อสู้ยูโร 2016 อีกทั้งถือเป็นครั้งแรก ที่รอบสุดท้าย จะมีถึง 24 ชาติ เข้าร่วมมือโรมรันพันตู จากที่การแข่งขันในหนแรก ที่ฝรั่งเศส เมื่อปี 1960 รอบสุดๆท้ายมีแค่ 4 ทีม ก่อนที่จะกระเถิบเพิ่มเป็น 8 ทีม ในปี 1980 ที่อิตาลี พร้อมกับเพิ่มมาเป็น16 ทีม นับตั้งแต่ยูโร 1996 ที่ประเทศอังกฤษ จนจนกระทั่งมาเป็น 24 ทีมในครั้งนี้

โดยที่ในรอบคัดเลือกตั้ง ทั้ง 53 ชาติคนของยูฟ่า ยกเลิกเจ้าภาพ ฝรั่งเศส จะต้องมายอมฟาดแข้งทรงแบ่งกลุ่ม โดยรอบคัดเลือก จะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 9 กลุ่ม ๆ ละ 5 หรือ 6 ชาติ ลงเตะแบบพบกันหมดเหย้า-เยือน เพราะมีโปรแกรมดีๆการลงเตะที่ชัดเจนดังนี้

1 : แข่งระหว่างวันที่ 7 - 9 เดือนกันยายน 2014
2 : ประกวดระหว่างวันที่ 9 -11 เดือนตุลาคม 2014
3 : ชิงชัยระหว่างวันที่ 12 - 14 เดือนตุลาคม 2014
4 : ประชันระหว่างวันที่ 14 - 16 เดือนพฤศจิกายน 2014
5 : ประกวดประขันระหว่างวันที่ 27 - 29 เดือนมีนาคม 2015
6 : แข่งขันระหว่างวันที่ 12 - 14 เดือนมิถุนายน 2015
7 : ชิงชัยระหว่างวันที่ 3 - 5 เดือนกันยายน 2015
8 : แข่งระหว่างวันที่ 6 - 8 เดือนกันยายน 2015
9 : ประกวดประขันระหว่างวันที่ 8 - 10 เดือนกันยายน 2015
10 : ชิงชัยระหว่างวันที่ 11 - 13 เดือนตุลาคม 2015

ซึ่ง แชมป์กลุ่ม พร้อมกับรองแชมป์กลุ่ม จะได้เข้าไปรอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ รวม 9 กลุ่ม 18 ทีม

โดยที่ทีมอันดับที่ 3 ดีที่สุด จะได้เข้ารอบไปอีก 1 ทีม ส่วนทีมระดับที่ 3 ของอีก 8 กลุ่มที่เหลือ จะจับฉลากเตะเพลย์ออฟแบบ เหย้า-เยือน หาอีก 4 ทีมก็จะได้ทีมจากรอบคัดเลือกรวมทั้งสิ้น 23 ทีม เข้าไปรวมกับเจ้าภาพฝรั่งเศส เป็น 24 ทีม

สำหรับรอบเพลย์ออฟ ระหว่าง ทีมวรรณะ 3 รวมทีม 4 คู่ จะมีลิขิตเตะนัดแรก วันที่ 12-13-14 พฤศจิกายน 2015 , นัดที่สอง เตะระหว่างวันที่ 15-16-17 พฤศจิกายน 2015

และสำหรับการรอบแบ่งกลุ่ม ทั้ง 9 กลุ่ม มีชาติใดกันบ้าง เชื่อว่า หลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่ปรากฏชัด หรือเคยทราบ ก็อาจจักลืมไป เพราะฉะนั้นไปติดตามกันได้เลย

กลุ่ม เอ : ทีมชนชาติสาธารณรัฐเช็ก , ทีมชาติไอซ์แลนด์ , ทีมชาติคาซักสถาน , ทีมชาติลัตเวีย , ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ และ ทีมชาติตุรกี
กลุ่ม บี : ทีมชาติอันดอร์ร่า , ทีมชาติเบลเยียม , ทีมชาติบอสเนีย , ทีมชาติไซปรัส , ทีมชาติอิสราเอล และ ทีมชาติเวลส์
กลุ่ม ซี : ทีมชาติเบลารุส , ทีมชาติมาซิโดเนีย , ทีมชาติลักเซมเบิร์ก , ทีมชาติ โลวะเกีย , ทีมชาติ เปน และ ทีมชาติยูเครน
กลุ่ม ดี : ทีมชาติจอร์เจีย , ทีมชาติ ยอรมนี , ทีมชาติยิบรอลตาร์ , ทีมชาติ ปแลนด์ , ทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ และ ทีมชาติสกอตแลนด์
กลุ่ม อี : ทีมชาติอังกฤษ , ทีมชาติเอสโตเนีย , ทีมชาติลิธัวเนีย , ทีมชาติซาน มารีโน่ , ทีมชาติสโลวีเนีย และ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์
กลุ่ม เอฟ : ทีมชาติหมู่เกาะแฟโร , ทีมชาติฟินแลนด์ , ทีมชาติกรีซ , ทีมชาติฮังการี , ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ และ ทีมชาติโรมาเนีย
กลุ่ม จี : ทีมชาติออสเตรีย , ทีมชาติมอนเตเนโกร , ทีมชาติลิกเตนสไตน์ , ทีมชาติมอลโดวา , ทีมชาติรัสเซีย และ ทีมชาติสวีเดน
กลุ่ม เอช : ทีมชาติอาเซอร์ไบจาน , ทีมชาติบัลแกเรีย , ทีมแผ่นดินโครเอเชีย , ทีมชาติอิตาลี , ทีมชาติมอลตา และ ทีมชาตินอร์เวย์
กลุ่ม ไอ : ทีมชาติแอลเบเนีย , ทีมชาติอาร์มีเนีย , ทีมชาติเดนมาร์ก , ทีมชาติโปรตุเกส และ ทีมชนชาติเซอร์เบีย

ด้วยกันถ้าดูจากการกั้นกลุ่ม พร้อมด้วยรูปแบบของการหาทีมเข้ารอบสุดชายแล้ว เชื่อขนมกินล่วงหน้าก่อนได้เลยว่า บรรดาชาติใหญ่ ๆ ทั้งหลาย ไม่น่าจะมีใคร ตกวงท่องเที่ยวตั้งแต่รอบคัดออกเสียงอย่างแน่นอน

ด้วยว่าแฟน ๆ ทีมใด ก็รอติดตามลุ้นทีมตัวเองกันได้เลยครับ

เมื่อความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี

เรื่องราวนี้ผมกล้าคุยได้เลยว่าถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการป่าประกาศผลรางวัลที่มีคนเมืองไทยเป็นหนึ่งในแคนดิเดต โดยยึดคะแนนจากการโหวตในอินเทอร์เน็ต คนไทยคนนั้นมีช่องทางสูงมากที่จะมีชัยเลิศ เพราะเรื่องนี้คนไทยไม่จิ๊ดหน้าชาติใดในโลกเลย

เพราะว่าที่ก่อนกำหนดหน้านี้ตารางแข่งบอลเคยชินมีแบบให้เห็นมาแล้ว กรณีที่ มุ้ย หรือ ธีรศิลป์ แดงดา และ อุ้ม หรือ ธีราทร บุญมาทัน ได้รับการโหวตให้ติดทีมยอดไปพบของเอเชีย ในเว็บไซต์ โกล ดอท คอม

ทั้งยังรวมไปถึง น้องเมย์ ไม่ใช่หรือ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันมือ 1 ของไทย คว้ารางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมเอเชีย จากการจัดโดยสำนักข่าว ฟ็อกซ์ สปอร์ต ซึ่งแต้มโหวตเกือบทั้งเจ๊ง แทบไม่ต้องแสวงเลยว่ามาจากประชาชนคนไทยเราๆ นี่แหละ

พร้อมด้วยล่าสุดมีอีกเอ็ดปรากฎการณ์ใหม่ ที่ชาวไซเบอร์ของไทยระดมพลกันเข้ามาไปกดไลค์แฟนเพจสโมสร ทีมอูเด อัลเมเรีย แห่งศึกลา ลีกา สเปน ต้นสังกัดปัจจุบันของ เจ้ามุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทย จากเริ่มต้นก่อนที่ มุ้ย จะย้ายไปร่วมทีม มีดีที่สุดกดไลค์เพียงเท่า 7000 กว่าครั้ง

แต่ในสมัยนี้ยอดพุ่งกระฉูดขึ้นมาเป็น 3 แสนกว่าครั้ง มากขึ้นกว่าเดิม 50 เท่า ดูแล้วก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับที่พักผ่อนเล็ก ๆ แดนกระทิงดุ ที่ที่แล้วหน้านี้คู่ควงเพจสโมสรหยุดพูดเป็นเป่าสาก มาถึงตอนนี้กระแสดีขึ้นจำพวกหลังเท้าเป็นหน้ามือ

โดยพลัดพรากการที่ได้สังเกตุ ร้อยละ 90 ของปุถุชนที่เข้าไปคอมเม้นต์และกดไลค์เป็นคนไทย แถมยังใช้ภาษาไทยในการแสดงความเห็น จนอดคิดไม่ได้ว่า พวกคนประเทศสเปนเขามาเห็นแล้วจะรู้สึกอย่างไร

ซึ่งถ้าลองคิดแบบใจเขาใจเรา ยกตัวอย่างเช่นหากสโมสรในไทยลีกยกตัวอย่างเช่นทีม ชัยนาท เอฟซี ไปเซ็นคว้าตัวนักเตะซูเปอร์สตาร์ของทีมชาติวานูอาตู มาร่วมทีม แล้วมีชาววานูอาตู โหมกันเข้ามาพูดคุยโตในแฟนเพจของสโมสรด้วยภาษาท้องถิ่นเต็มหน้าเพจละลานตาไปหมด เราคนไทยอ่านแล้วไม่เข้าใจว่า พวกนี้มันคุยอะไรกัน แล้วเราจะรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจบ้างหรือเปล่า คือไม่รู้สิ ถ้าเป็นผม ผมรำคาญนะ

แต่ในจุดนี้ยังไม่เท่าไหร่ เพราะหากมองในแง่ดี คิดในเรื่องการท้องตลาด ถือเป็นกิจธุระดีที่แฟนเพจของทีมเรา มีผู้เข้ามาไปหาชมมีความนิยมมากขึ้น คงจะมีบ้างที่รู้สึกรำคาญ ผมเองเริ่มเห็นบางคอมเม้นต์เคลื่อนคนสเปน ที่ครวญคร่ำรำพันด้วยถ้อยคำจิกกัดแรงๆ เกี่ยวกับกิริยาท่าทางเกรียนแตก เข้าไปเสนอแสนยานุภาพ แบบไม่มีมรรยาทและรู้จักกาลเทศะของชาวเน็ทไทยบางส่วนบ้างแล้ว

ในบทนี้ไม่ว่าแอดมินจะโพสต์สถานะเรื่องอะไรก็ตาม คอมเม้นต์ของคนไทยก็มีแต่เรื่องของ เอล แดงดา เต็มไปหมด ทั้งๆ ที่เรื่องที่โพสต์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเจ้าตัวเลยสักนิด ข่าวของนักเตะภายในเหล่าคนอื่นๆ เรื่องการทำให้ดีขึ้นทัพ หรือหายกลับมาจากท่าบาดเจ็บ แม้กระทั่ง

ข้อมูลของทีมเยาวชน
ข่าวคราวทีมแบดมินตัน
ข่าวคราวกิจกรรมช่วยเหลือการกุศล

ซึ่งคนไทยก็เข้าไปโพสต์ประมาณว่าไอ้นี่มันไม่ได้เรื่อง สู้ TD18 ไม่ได้ ต้องส่งมุ้ยลงสนามเท่านั้น คนไทยรอดูมุ้ยอยู่นะเฟ้ย ถ้าไม่เอามุ้ยลงจะเลิกเชียร์เลยคอยดู บลา ๆ ๆ

พร้อมด้วยยิ่งหลังจากเกม 2 นัดที่ผ่านมา ที่มุ้ยได้ลงสนามเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกม ที่เสมอกับ เอสปันญอล 1-1 และ แพ้ เคตาเฟ่ 0-1 มีลูกเพจชาวไทยเข้าไปกระหน่ำด่าปลีแข้งผิวสี ทั้ง โจนาธาน ซองโก้ และ ติเอวี่ บิฟูม่า อย่างสาดเสียเทเสีย ว่า

เล่นบอลเหลือบเห็นแก่ตัว
หวงฟุตบอล
ขี้เลี้ยง
ไม่จำใจจ่ายบอลให้มุ้ย

ซึ่งแม้นผมเองจะเห็นด้วยเป็นตำบลใหญ่ก็เถอะ ทว่าก็ยังละคิดไม่ได้อีกเทียบเท่ากันว่า แล้วอย่างนี้เพื่อนร่วมมือทีมเขาจะไม่เหม็นหน้ามุ้ยไปกันใหญ่รึไง โดยเจาะจงพวกนักเตะที่ปะทะคนไทยด่า ถ้ามีชีวิตพวกจิตใจคับแคบหน่อยคงยิ่งไม่พึงพอใจหน้ามุ้ยไปกันใหญ่

ตัดผ่านมาในยุคสมัยแรกๆ ผมมาถึงเพจอัลเมเรีย เพื่อคาดหวังอ่านความเห็นของชาวต่างชาติ ว่าเขาคิดกับนักเตะของเราอย่างไร มองเป็นเรื่องการตลาดหรือเนื่องจากฝีเท้า และพอใจผลงานหรือไม่ แต่ยิ่งนานเข้า ก็ยิ่งมีแต่คอมเม้นต์ภาษาไทยเต็มไปตรึก

ซึ่งหลังๆ เลยเข้าไปเท่าอ่านข่าวเท่านั้น เพราะแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยในการอ่านความคิดทรรศนะเกรียนๆบางครั้งพวกนี้ทำให้ผมนึกถึงพวกที่ถูกใจโพสต์ฝากร้าน คือมันไม่ได้อ่านหรอกว่าเขาคุยอะไรกันอยู่ กรูแค่อยากจะขอฝากร้าน มีอะไรมั้ย

พร้อมกับที่หนักข้อไปกันอุรุก็คือ แฟนบอลไทยลีกบางสโมสรเข้าไปปากเสียงกันด่ากันในแฟนเพจอัลเมเรีย ถามหน่อยเถอะว่าคิดได้ยังไง การกระทำแบบนี้ล่ะชาวต่างชาติเขาถึงยังมองคนไทยว่าต่ำต้อยการศึกษา ไม่ใส่รองเท้า และขี่ช้างไปเรียนหนังสืออยู่

ซึ่งนี่ไม่ชอบกลเลยที่ทุกคนเอาใจช่วยมุ้ย อยากให้มุ้ยประสบความสำเร็จ ในฐานะตัวแทนของประเทศชาติ ผมเองก็เช่นกัน แต่อยากขอให้ทำแค่พอดีๆ นึกถึงความเดือดร้อนที่มุ้ยอาจจะได้รับผลกระเทือนบ้าง

เบาบางคำพูดที่น่าจะจำกัดความได้ดีที่สุดก็คงเป็นคำว่า ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี ยังไงก็ขอวานด้วยนะครับ

เมื่อโพลเผยว่า ราฟาโกยค่าจ้างมากสุดลีกกัลโช่

ตราบใดทาง กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต แบโพล เผยว่า ราฟาเอล เบนิเตซ ได้รับค่าเหนื่อยมากสุดลีก กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี 157.5 ล้านบ. ต่อปี ถ้าว่ามากสุดใน อิตาลี เป็น นายอันโตนิโอ คอนเต้หรือประมาณ 167.25 ล้านบ. ต่อปี

ซึ่งเลน กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต ที่ทั้งเป็นสื่อกีฬาชื่อดังแดนมะกะโรนี ได้เปิดใจโพลวิเคราะห์ผลบอลสำรวจค่าเหนื่อยของเหล่าบรรดากุนซือในลีก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี โดยระบุว่า เทรนเนอร์ที่รับค่าจ้างมากที่สุดในฤดูกาล 2014-15 นั้นได้แก่ ราฟาเอล เบนิเตซ เฮดโค้ชมาดบ๋อยอ้วนของทีม นาโปลี ซึ่งล่าสุดรับอยู่ที่ 3.5 ล้านยูโรหรือ 157.5 ล้านบาท ต่อปี

ในส่วนของอันดับ 2-3 นั้นได้แก่

วอลเตอร์ มาซซาร์รี่ ของทีม อินเตอร์ มิลาน 3.3 ล้านยูโรหรือ 148.5 ล้านบาท ต่อปี
รูดี้ การ์เซีย ของทีม อาแอส โรม่า 2.8 ล้านยูโรหรือ 126 ล้านบาท ต่อปี

และในขณะที่ 2 กุนซือที่พึ่งจะได้งานใหม่อย่าง

มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ข้าวของเครื่องใช้ทีม ยูเวนตุส โดยรับอยู่ที่ 2.4 ล้านยูโรหรือ 108 ล้านบาท ต่อปี
ฟิลิปโป้ อินซากี้ ของทีม เอซี มิลาน 1.5 ล้านยูโรหรือ 67.5 ล้านบาท ต่อปีตามลำดับ

กับสำหรับกุนซือที่ได้รองค่าจ้างประจำปีน้อยที่สุด คือ

เมาริซิโอ ซาร์รี่ ของทีม เอ็มโปลี ซึ่งรับอยู่แค่ 300,000 ยูโรหรือ 13.5 ล้านบาท ต่อปีแต่

ในแง่มุมของ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือทีมชาติ อิตาลี นั้น ได้รับ 3.65 ล้านยูโรใช่ไหม 164.25 ล้านบาท ต่อปี ซึ่งมากที่สุดในแดนมะกะโรนี

หน่วยค่าเงิน 1 ยูโร = 45 บาท

รายชื่อ20 ชิ้นดับกุนซือที่ได้ค่าจ้างมากที่สุดใน อิตาลี